Wednesday, March 31, 2010
Helm standar SNI 2010 Pictures
Helm standar SNI 2010 Pictures
Police still do soialisasi tehadap helmet use berlebel SNI (Indonesian Civic Standard). The administrator will advise the bikers who use helmets cetok.
Contoh merk helm Standar SNI:
Starting today, the bikers are appropriate to use helmets berlebel SNI (Indonesian Civic Standard). 19 merk helmet which is advised to accept civic standards of Indonesia such as NHK, GM, VOG, Ps, MIX, INK, KYT, MDS, BMC, sharks, Jpn, BESTI, CROSX, SMI, SHC, OTOKOGI, CABERG, HBC and Cargloss Helmet.
"Give Up!," 2010, Joshua Abelow
Give Up!
02/2010 Joshua Abelow
I wasn't a big
reader until my
life went to shit
and I went crazy
and all my friends
got old and wrinkly.
Then, suddenly, reading
was much, much
better and much
more exciting than
all of that. Maybe
some day I'll
give up reading
and go back to
living, but until
then, I prefer
staying in
this room.
YAMAHA WR250R (2010) insurance info | specs | pictures |
YAMAHA WR250R (2010) Motorcycle Pictures, Preview and Specifications.
- The 2010 Yamaha WR250R draws upon over 50 years of Yamaha experience, on pavement and off, to bring you a bike that'll take you practically anywhere - one hundred percent legally. More power than you might expect flows from its high-tech fuel injected DOHC engine while a hybrid aluminum frame keeps you in complete command. Pavement optional -
Motorcycle Pictures, choose by BRANDS>
YAMAHA Models >
YAMAHA WR250R (2010)
Click Thumbnail to download (size 1600 x 1200 pixels)
Descended from YZ and WR, the WR250R offers trail or street performance.
You are looking at the next generation of high performance dual sport machines. Inspired by our legendary WR series, the 2010 Yamaha WR250R is a machine that offers incredible performance on the road and off. Discover for yourself just how the 250cc of fuel injected power can push the limits of performance. This revolutionary 2010 WR250R is ready to tame the twistest road or the toughest trail - with power, handling and style.
You are looking at the next generation of high performance dual sport machines. Inspired by our legendary WR series, the 2010 Yamaha WR250R is a machine that offers incredible performance on the road and off. Discover for yourself just how the 250cc of fuel injected power can push the limits of performance. This revolutionary 2010 WR250R is ready to tame the twistest road or the toughest trail - with power, handling and style.
General information
USA Specifications
MSRP* $6,390 (Team Yamaha Blue/White) Available from September 2009
Engine
Type 250cc liquid-cooled DOHC 4-stroke; 4 valves
Bore x Stroke 77.0 x 53.6mm
Compression Ratio 11.8:1
Fuel Delivery Fuel injection
Ignition Direct ignition coil
Transmission Constant-mesh 6-speed; multiplate wet clutch
Final Drive Chain
Chassis
Suspension/Front Inverted fork; fully adjustable, 10.6-in travel
Suspension/Rear Single shock; fully adjustable, 10.6-in travel
Brakes/Front Hydraulic single-disc brake, 250mm
Brakes/Rear Hydraulic single-disc brake, 230mm
Tires/Front 80/100-21
Tires/Rear 120/80-18
Dimensions
Length 85.6 in
Width 31.9 in
Height 48.4 in
Seat Height 36.6 in
Wheelbase 55.9 in
Ground Clearance 11.8 in
Fuel Capacity 2.0 gal
Fuel Economy** 71 mpg
Wet Weight 298 lb (California model 297 lb)
Other
Warranty 1 Year (Limited Factory Warranty)
Motorcycles Insurance motorcycle.progressive.com |
YAMAHA Models >
YAMAHA V-Max VMX17 (2010) pictures collection
YAMAHA V-Max VMX17 (2010) Motorcycle Pictures, Preview and Specifications.
- The 2010 Yamaha VMAX has always been the untimate muscle bike, and the 2010 VMAX is the awesome result of its evolutionary journey. The unique features of this iconic beast are richly blended with advanced sportbike technology and forward-thinking style. It all ads up to a machine with immense performance and visual power -
Motorcycle Pictures, choose by BRANDS>
YAMAHA Models >
YAMAHA V-Max VMX17 (2010)
Click Thumbnail to download (size 1600 x 1200 pixels)
Unlike any other motorcycle available today, the 2010 Yamaha VMAX is truly in a class of its own. The awesome acceleration and muscular beauty combines with sporty handling and Yamaha's latest electronic engine management technologies to offer an incredibly exhilarating riding experience.
General information
USA Specifications
MSRP: $19,500 USD (Candy Red) Available from November 2009
Engine
Type 1679cc liquid-cooled 65° V-4, DOHC, 4 valves/cylinder
Bore x Stroke 90.0mm x 66.0mm
Compression Ratio 11.3:1
Fuel Delivery Fuel Injection with YCC-T and YCC-I
Ignition TCI: Transistor Controlled Ignition
Transmission 5-speed, multiplate slipper clutch
Final Drive Shaft
Chassis
Suspension/Front 52mm telescopic cartridge fork w/oxidized titanium coating. Fully adjustable preload, compression and rebound; 4.7 in travel
Suspension/Rear Single shock w/remote reservoir and remote adjustable for preload, compression and rebound
Brakes/Front Dual 320mm wave-type discs; radial mount 6-piston calipers, Brembo® radial pump master cylinder
Brakes/Rear 298mm wave-type disc, single-piston caliper and Brembo® master cylinder
Tires/Front Bridgestone® Radial 120/70-R18 59V
Tires/Rear Bridgestone® Radial 200/50-R18 76V
Dimensions
Length 94.3 in
Width 32.3 in
Height 46.8 in
Seat Height 30.5 in
Wheelbase 66.9 in
Rake (Caster Angle) 31.0 in
Trail 5.8 in
Fuel Capacity 4.0 gal
Fuel Economy** 27 mpg
Wet Weight*** 683 lb / 685 lb (CA model)
Motorcycles Insurance motorcycle.progressive.com |
YAMAHA Models >
FINAL IRTA TEST
การฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายของบรรดานักแข่งในรุ่นโมโต 2 ได้เสร็จสิ้นลงไปเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หนึ่งเดียวของไทย ซื้อตั๋วไปทันซ้อมอย่างชนิดใจหายใจคว่ำ เมื่อต้นสังกัดไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับตัวถัง (Frame) ที่จะใช้ชิงชัยในปีนี้ รวมทั้งสปอนเซอร์บางรายที่ยังไม่พร้อมเข้าสนับสนุน ทำให้เกิดการล่าช้าไปทุกขั้นตอน
แต่อย่างไรก็ดี เจ้าฟีมก็ได้บินไปร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆในรุ่นนี้ ที่มีทั้งเพื่อนเก่าและใหม่รวมแล้ว 40 ชีวิต นับว่าเป็นการแข่งขันที่มีประชากรมากที่สุด ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ในรุ่น GP125 มีรถมากถึง 44 คัน โดยการฝึกซ้อมในรุ่นนี้ได้ทำการฝึกซ้อมไปแล้วทั้ง 3 สนาม (เฮเรซ, คาตาลุนย่าและบาเลนเซีย) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สรุปสุดท้ายทีมงานแซ๊กได้เลือกใช้บริการตัวถังของ Bimota รุ่น HB4 (Honda-Bimota version4) โดยทีมงาน Bimota ได้ทำการพัฒนามาจนถึงแบบที่ 4 แต่ยังไม่มีนักแข่งในโมโต2 รายใดได้เคยขับขี่ และในการแข่งขันปีนี้ก็จะมีเพียง 2 คนที่จะใช้ตัวถัง HB4 คือ รัฐภาคย์วิไลโรจน์กับเบอนาด มาติเนซ เพื่อนร่วมทีมแซ๊ก
ภาพอากาศที่ประเทศเสปนในช่วงนี้ยังคงหนาวเย็น โดยวันที่เริ่มซ้อมวันแรก อากาศเย็นสบาย แต่ทีมงานไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซก กับไม่สบายเหมือนอากาศ เพราะรถที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับตัวถังมาเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เอง เจ้าฟีมต้องเข้าๆออกพิทเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่แทบทุกจุด วัดรอบไม่ขึ้น ตัวบันทึกข้อมูลไม่อ่าน ช๊อคอัพหลังยังไม่เสร็จ ช๊อคอัพหน้านิ่มไป และอีกสารพัดที่ต้องจัดการ วันแรกจึงวิ่งไปเพียง 44 รอบในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมการแข่งขันฝึกซ้อมกันอย่างสุกสนาน บางคนวิ่งเกือบร้อยรอบ ผู้ที่เร็วที่สุดในวันนี้เป็น #24 โทนี่ อิไลอัส นักแข่งที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาที่ 1'44.077 ในขณะที่ฟีมทำได้เพียง 1'46.454 และมาดีขึ้นในช่วงบ่ายที่ 1'45.981
"หยุดขี่ไปนาน แม้ว่าจะได้ขี่ในเมืองไทยมาพอประมาณ แต่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสภาพสนาม ความเร็ว รวมทั้งสภาพกาศ วันนี้ต้องปรับหลายจุด ทำให้ขี่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ"
การซ้อมในวันที่สอง สภาพอากาศยังคงเป็นไปอย่างสบาย ทีมงานแซ๊กได้แก้ไขข้อบกพร่องในหลายจุด ทำให้วันนี้เจ้าฟีมได้ขับขี่มากรอบขึ้น และสามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีขึ้นในทุกจุด เป็นรองหัวแถวอย่าง #72ยูกิ ทาคาฮาชิในแต่ช่วงเพียงเล็กน้อย จากอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ทำให้ยูกิ ทำเวลาได้เพียง 1'44.552 ช้ากว่าเมื่อวานราวครึ่งวินาที อิไลอัสเองก็ช้าลง 1'44.844 คือเวลาที่เต็งหนึ่งอย่างอิไลอัสทำได้ เจ้าฟีมขยับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 1'45.463 ช้ากว่ายูกิไม่ถึงวินาที
"ทดลองหลายอย่างมากครับ แต่ก็ดีขึ้น ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย แต่ดูเหมือนว่า HB4 จะหนักกว่า Suter ที่เคยขี่เมื่อปลายปีแล้วนิดหน่อย ช๊อคอัพหน้ายังนิ่มไปนิด สปริงที่เตรียมมาไม่พอกับความแรงและน้ำหนักของรถที่มากขึ้น หลัง OK เบรกก็ดี มีท่านั่งที่ยังอึดอัดไปนิด ทีมงานรับปากว่าจะขยับขยายให้ แล้วก็มีอัตราเร่งที่ยังไม่ทัน Moriwaki โดยรวมพอใจมากครับ"
วันสุดท้ายของการทดสอบ ช่วงเช้าอากาศดี แต่ช่วงบ่ายฝนตก มีนักแข่งพลาดล้มไปหลายคัน ที่หนักที่สุดคือเต็งหนึ่งอย่างอิไลอัส ถึงขั้นกระดูกมือและเท้าแตก ฟีมเองก็ขี่แบบเซฟในช่วงเช้า ก็มี #71 คลาอูดิโอ้ คอรติที่เร็วสุด 1'44.044 อิไลอัสก่อนล้ม 1'44.263 ฟีมทำได้เพียง 1'46.014 ช้ากว่าคอรติ 2 วินาที
ผลการซ้อมทั้งสามวัน
หลังการซ้อมเสร็จสิ้น ทุกทีมต้องถอดเครื่องยนต์คืนให้กับผู้จัดฯเพื่อที่จะได้นำกลับไปปรับสภาพให้ใหม่เหมือนเดิม จากนั้นก็เก็บรถแข่งและอุปกรณ์ลงลังเพื่อส่งไปยังประเทศการ์ต้า
"คู่แข่งปีนี้ไม่น่ากลัวมากนัก เป็นห่วงแต่เรื่องรถ เพราะเรามีเวลาน้อยกว่าทีมอื่น และยังต้องแก้ไขอีกหลายจุด เรื่องแฟริ่งที่ใหญ่ไปหน่อย โดยทีมงานได้ทดลองตัดแต่งก็ดีขึ้น และรับปากว่าจะออกแบบใหม่ให้ทันการแข่งสนามแรกที่การ์ต้า คู่แข่งที่ดูดีก็มี #24 อิไลอัสกับ #15 ดิ แองเจิลลิส สองคนนี้ปรับรถเร็ว คนอื่นๆ ก็พอได้ ยังมีจากรุ่นเล็กก็เก่งใช้ได้ แต่อย่างไรฟีมไม่ยอมอยู่แล้วครับ"
โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับเวลาที่มีให้เพียง 3 วัน หลังจากนี้การบ้านใหญ่ตกหนักที่ทีมงานแซ๊กและ Bimota ที่จะต้องปรับ HB4 ให้อยู่มือภายในเวลาไม่ถึง 10 วันนับจากนี้
การแข่งขันสนามแรกเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาที่สนามโลไซอัล เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้าในระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2553 ที่จะถึงนี้ครับ
เพิ่งเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page045.asp?id=0591
แต่อย่างไรก็ดี เจ้าฟีมก็ได้บินไปร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆในรุ่นนี้ ที่มีทั้งเพื่อนเก่าและใหม่รวมแล้ว 40 ชีวิต นับว่าเป็นการแข่งขันที่มีประชากรมากที่สุด ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ในรุ่น GP125 มีรถมากถึง 44 คัน โดยการฝึกซ้อมในรุ่นนี้ได้ทำการฝึกซ้อมไปแล้วทั้ง 3 สนาม (เฮเรซ, คาตาลุนย่าและบาเลนเซีย) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สรุปสุดท้ายทีมงานแซ๊กได้เลือกใช้บริการตัวถังของ Bimota รุ่น HB4 (Honda-Bimota version4) โดยทีมงาน Bimota ได้ทำการพัฒนามาจนถึงแบบที่ 4 แต่ยังไม่มีนักแข่งในโมโต2 รายใดได้เคยขับขี่ และในการแข่งขันปีนี้ก็จะมีเพียง 2 คนที่จะใช้ตัวถัง HB4 คือ รัฐภาคย์วิไลโรจน์กับเบอนาด มาติเนซ เพื่อนร่วมทีมแซ๊ก
ภาพอากาศที่ประเทศเสปนในช่วงนี้ยังคงหนาวเย็น โดยวันที่เริ่มซ้อมวันแรก อากาศเย็นสบาย แต่ทีมงานไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซก กับไม่สบายเหมือนอากาศ เพราะรถที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับตัวถังมาเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เอง เจ้าฟีมต้องเข้าๆออกพิทเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่แทบทุกจุด วัดรอบไม่ขึ้น ตัวบันทึกข้อมูลไม่อ่าน ช๊อคอัพหลังยังไม่เสร็จ ช๊อคอัพหน้านิ่มไป และอีกสารพัดที่ต้องจัดการ วันแรกจึงวิ่งไปเพียง 44 รอบในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมการแข่งขันฝึกซ้อมกันอย่างสุกสนาน บางคนวิ่งเกือบร้อยรอบ ผู้ที่เร็วที่สุดในวันนี้เป็น #24 โทนี่ อิไลอัส นักแข่งที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาที่ 1'44.077 ในขณะที่ฟีมทำได้เพียง 1'46.454 และมาดีขึ้นในช่วงบ่ายที่ 1'45.981
"หยุดขี่ไปนาน แม้ว่าจะได้ขี่ในเมืองไทยมาพอประมาณ แต่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสภาพสนาม ความเร็ว รวมทั้งสภาพกาศ วันนี้ต้องปรับหลายจุด ทำให้ขี่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ"
การซ้อมในวันที่สอง สภาพอากาศยังคงเป็นไปอย่างสบาย ทีมงานแซ๊กได้แก้ไขข้อบกพร่องในหลายจุด ทำให้วันนี้เจ้าฟีมได้ขับขี่มากรอบขึ้น และสามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีขึ้นในทุกจุด เป็นรองหัวแถวอย่าง #72ยูกิ ทาคาฮาชิในแต่ช่วงเพียงเล็กน้อย จากอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ทำให้ยูกิ ทำเวลาได้เพียง 1'44.552 ช้ากว่าเมื่อวานราวครึ่งวินาที อิไลอัสเองก็ช้าลง 1'44.844 คือเวลาที่เต็งหนึ่งอย่างอิไลอัสทำได้ เจ้าฟีมขยับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 1'45.463 ช้ากว่ายูกิไม่ถึงวินาที
"ทดลองหลายอย่างมากครับ แต่ก็ดีขึ้น ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย แต่ดูเหมือนว่า HB4 จะหนักกว่า Suter ที่เคยขี่เมื่อปลายปีแล้วนิดหน่อย ช๊อคอัพหน้ายังนิ่มไปนิด สปริงที่เตรียมมาไม่พอกับความแรงและน้ำหนักของรถที่มากขึ้น หลัง OK เบรกก็ดี มีท่านั่งที่ยังอึดอัดไปนิด ทีมงานรับปากว่าจะขยับขยายให้ แล้วก็มีอัตราเร่งที่ยังไม่ทัน Moriwaki โดยรวมพอใจมากครับ"
วันสุดท้ายของการทดสอบ ช่วงเช้าอากาศดี แต่ช่วงบ่ายฝนตก มีนักแข่งพลาดล้มไปหลายคัน ที่หนักที่สุดคือเต็งหนึ่งอย่างอิไลอัส ถึงขั้นกระดูกมือและเท้าแตก ฟีมเองก็ขี่แบบเซฟในช่วงเช้า ก็มี #71 คลาอูดิโอ้ คอรติที่เร็วสุด 1'44.044 อิไลอัสก่อนล้ม 1'44.263 ฟีมทำได้เพียง 1'46.014 ช้ากว่าคอรติ 2 วินาที
ผลการซ้อมทั้งสามวัน
หลังการซ้อมเสร็จสิ้น ทุกทีมต้องถอดเครื่องยนต์คืนให้กับผู้จัดฯเพื่อที่จะได้นำกลับไปปรับสภาพให้ใหม่เหมือนเดิม จากนั้นก็เก็บรถแข่งและอุปกรณ์ลงลังเพื่อส่งไปยังประเทศการ์ต้า
"คู่แข่งปีนี้ไม่น่ากลัวมากนัก เป็นห่วงแต่เรื่องรถ เพราะเรามีเวลาน้อยกว่าทีมอื่น และยังต้องแก้ไขอีกหลายจุด เรื่องแฟริ่งที่ใหญ่ไปหน่อย โดยทีมงานได้ทดลองตัดแต่งก็ดีขึ้น และรับปากว่าจะออกแบบใหม่ให้ทันการแข่งสนามแรกที่การ์ต้า คู่แข่งที่ดูดีก็มี #24 อิไลอัสกับ #15 ดิ แองเจิลลิส สองคนนี้ปรับรถเร็ว คนอื่นๆ ก็พอได้ ยังมีจากรุ่นเล็กก็เก่งใช้ได้ แต่อย่างไรฟีมไม่ยอมอยู่แล้วครับ"
โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับเวลาที่มีให้เพียง 3 วัน หลังจากนี้การบ้านใหญ่ตกหนักที่ทีมงานแซ๊กและ Bimota ที่จะต้องปรับ HB4 ให้อยู่มือภายในเวลาไม่ถึง 10 วันนับจากนี้
การแข่งขันสนามแรกเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาที่สนามโลไซอัล เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้าในระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2553 ที่จะถึงนี้ครับ
เพิ่งเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page045.asp?id=0591
FINAL IRTA TEST
การฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการครั้งสุดท้ายของบรรดานักแข่งในรุ่นโมโต 2 ได้เสร็จสิ้นลงไปเมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าฟีม รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ นักแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หนึ่งเดียวของไทย ซื้อตั๋วไปทันซ้อมอย่างชนิดใจหายใจคว่ำ เมื่อต้นสังกัดไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับตัวถัง (Frame) ที่จะใช้ชิงชัยในปีนี้ รวมทั้งสปอนเซอร์บางรายที่ยังไม่พร้อมเข้าสนับสนุน ทำให้เกิดการล่าช้าไปทุกขั้นตอน
แต่อย่างไรก็ดี เจ้าฟีมก็ได้บินไปร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆในรุ่นนี้ ที่มีทั้งเพื่อนเก่าและใหม่รวมแล้ว 40 ชีวิต นับว่าเป็นการแข่งขันที่มีประชากรมากที่สุด ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ในรุ่น GP125 มีรถมากถึง 44 คัน โดยการฝึกซ้อมในรุ่นนี้ได้ทำการฝึกซ้อมไปแล้วทั้ง 3 สนาม (เฮเรซ, คาตาลุนย่าและบาเลนเซีย) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สรุปสุดท้ายทีมงานแซ๊กได้เลือกใช้บริการตัวถังของ Bimota รุ่น HB4 (Honda-Bimota version4) โดยทีมงาน Bimota ได้ทำการพัฒนามาจนถึงแบบที่ 4 แต่ยังไม่มีนักแข่งในโมโต2 รายใดได้เคยขับขี่ และในการแข่งขันปีนี้ก็จะมีเพียง 2 คนที่จะใช้ตัวถัง HB4 คือ รัฐภาคย์วิไลโรจน์กับเบอนาด มาติเนซ เพื่อนร่วมทีมแซ๊ก
ภาพอากาศที่ประเทศเสปนในช่วงนี้ยังคงหนาวเย็น โดยวันที่เริ่มซ้อมวันแรก อากาศเย็นสบาย แต่ทีมงานไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซก กับไม่สบายเหมือนอากาศ เพราะรถที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับตัวถังมาเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เอง เจ้าฟีมต้องเข้าๆออกพิทเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่แทบทุกจุด วัดรอบไม่ขึ้น ตัวบันทึกข้อมูลไม่อ่าน ช๊อคอัพหลังยังไม่เสร็จ ช๊อคอัพหน้านิ่มไป และอีกสารพัดที่ต้องจัดการ วันแรกจึงวิ่งไปเพียง 44 รอบในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมการแข่งขันฝึกซ้อมกันอย่างสุกสนาน บางคนวิ่งเกือบร้อยรอบ ผู้ที่เร็วที่สุดในวันนี้เป็น #24 โทนี่ อิไลอัส นักแข่งที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาที่ 1'44.077 ในขณะที่ฟีมทำได้เพียง 1'46.454 และมาดีขึ้นในช่วงบ่ายที่ 1'45.981
"หยุดขี่ไปนาน แม้ว่าจะได้ขี่ในเมืองไทยมาพอประมาณ แต่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสภาพสนาม ความเร็ว รวมทั้งสภาพกาศ วันนี้ต้องปรับหลายจุด ทำให้ขี่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ"
การซ้อมในวันที่สอง สภาพอากาศยังคงเป็นไปอย่างสบาย ทีมงานแซ๊กได้แก้ไขข้อบกพร่องในหลายจุด ทำให้วันนี้เจ้าฟีมได้ขับขี่มากรอบขึ้น และสามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีขึ้นในทุกจุด เป็นรองหัวแถวอย่าง #72ยูกิ ทาคาฮาชิในแต่ช่วงเพียงเล็กน้อย จากอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ทำให้ยูกิ ทำเวลาได้เพียง 1'44.552 ช้ากว่าเมื่อวานราวครึ่งวินาที อิไลอัสเองก็ช้าลง 1'44.844 คือเวลาที่เต็งหนึ่งอย่างอิไลอัสทำได้ เจ้าฟีมขยับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 1'45.463 ช้ากว่ายูกิไม่ถึงวินาที
"ทดลองหลายอย่างมากครับ แต่ก็ดีขึ้น ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย แต่ดูเหมือนว่า HB4 จะหนักกว่า Suter ที่เคยขี่เมื่อปลายปีแล้วนิดหน่อย ช๊อคอัพหน้ายังนิ่มไปนิด สปริงที่เตรียมมาไม่พอกับความแรงและน้ำหนักของรถที่มากขึ้น หลัง OK เบรกก็ดี มีท่านั่งที่ยังอึดอัดไปนิด ทีมงานรับปากว่าจะขยับขยายให้ แล้วก็มีอัตราเร่งที่ยังไม่ทัน Moriwaki โดยรวมพอใจมากครับ"
วันสุดท้ายของการทดสอบ ช่วงเช้าอากาศดี แต่ช่วงบ่ายฝนตก มีนักแข่งพลาดล้มไปหลายคัน ที่หนักที่สุดคือเต็งหนึ่งอย่างอิไลอัส ถึงขั้นกระดูกมือและเท้าแตก ฟีมเองก็ขี่แบบเซฟในช่วงเช้า ก็มี #71 คลาอูดิโอ้ คอรติที่เร็วสุด 1'44.044 อิไลอัสก่อนล้ม 1'44.263 ฟีมทำได้เพียง 1'46.014 ช้ากว่าคอรติ 2 วินาที
ผลการซ้อมทั้งสามวัน
หลังการซ้อมเสร็จสิ้น ทุกทีมต้องถอดเครื่องยนต์คืนให้กับผู้จัดฯเพื่อที่จะได้นำกลับไปปรับสภาพให้ใหม่เหมือนเดิม จากนั้นก็เก็บรถแข่งและอุปกรณ์ลงลังเพื่อส่งไปยังประเทศการ์ต้า
"คู่แข่งปีนี้ไม่น่ากลัวมากนัก เป็นห่วงแต่เรื่องรถ เพราะเรามีเวลาน้อยกว่าทีมอื่น และยังต้องแก้ไขอีกหลายจุด เรื่องแฟริ่งที่ใหญ่ไปหน่อย โดยทีมงานได้ทดลองตัดแต่งก็ดีขึ้น และรับปากว่าจะออกแบบใหม่ให้ทันการแข่งสนามแรกที่การ์ต้า คู่แข่งที่ดูดีก็มี #24 อิไลอัสกับ #15 ดิ แองเจิลลิส สองคนนี้ปรับรถเร็ว คนอื่นๆ ก็พอได้ ยังมีจากรุ่นเล็กก็เก่งใช้ได้ แต่อย่างไรฟีมไม่ยอมอยู่แล้วครับ"
โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับเวลาที่มีให้เพียง 3 วัน หลังจากนี้การบ้านใหญ่ตกหนักที่ทีมงานแซ๊กและ Bimota ที่จะต้องปรับ HB4 ให้อยู่มือภายในเวลาไม่ถึง 10 วันนับจากนี้
การแข่งขันสนามแรกเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาที่สนามโลไซอัล เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้าในระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2553 ที่จะถึงนี้ครับ
เพิ่งเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page045.asp?id=0591
แต่อย่างไรก็ดี เจ้าฟีมก็ได้บินไปร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนๆในรุ่นนี้ ที่มีทั้งเพื่อนเก่าและใหม่รวมแล้ว 40 ชีวิต นับว่าเป็นการแข่งขันที่มีประชากรมากที่สุด ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ในรุ่น GP125 มีรถมากถึง 44 คัน โดยการฝึกซ้อมในรุ่นนี้ได้ทำการฝึกซ้อมไปแล้วทั้ง 3 สนาม (เฮเรซ, คาตาลุนย่าและบาเลนเซีย) ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
สรุปสุดท้ายทีมงานแซ๊กได้เลือกใช้บริการตัวถังของ Bimota รุ่น HB4 (Honda-Bimota version4) โดยทีมงาน Bimota ได้ทำการพัฒนามาจนถึงแบบที่ 4 แต่ยังไม่มีนักแข่งในโมโต2 รายใดได้เคยขับขี่ และในการแข่งขันปีนี้ก็จะมีเพียง 2 คนที่จะใช้ตัวถัง HB4 คือ รัฐภาคย์วิไลโรจน์กับเบอนาด มาติเนซ เพื่อนร่วมทีมแซ๊ก
ภาพอากาศที่ประเทศเสปนในช่วงนี้ยังคงหนาวเย็น โดยวันที่เริ่มซ้อมวันแรก อากาศเย็นสบาย แต่ทีมงานไทยฮอนด้า พีทีที สิงห์ แซก กับไม่สบายเหมือนอากาศ เพราะรถที่ยังไม่พร้อมสมบูรณ์ เนื่องจากเพิ่งจะได้รับตัวถังมาเมื่อช่วงกลางเดือนนี้เอง เจ้าฟีมต้องเข้าๆออกพิทเพื่อแก้ปัญหาที่มีอยู่แทบทุกจุด วัดรอบไม่ขึ้น ตัวบันทึกข้อมูลไม่อ่าน ช๊อคอัพหลังยังไม่เสร็จ ช๊อคอัพหน้านิ่มไป และอีกสารพัดที่ต้องจัดการ วันแรกจึงวิ่งไปเพียง 44 รอบในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมการแข่งขันฝึกซ้อมกันอย่างสุกสนาน บางคนวิ่งเกือบร้อยรอบ ผู้ที่เร็วที่สุดในวันนี้เป็น #24 โทนี่ อิไลอัส นักแข่งที่ลงมาจากรุ่นโมโตจีพี ทำเวลาที่ 1'44.077 ในขณะที่ฟีมทำได้เพียง 1'46.454 และมาดีขึ้นในช่วงบ่ายที่ 1'45.981
"หยุดขี่ไปนาน แม้ว่าจะได้ขี่ในเมืองไทยมาพอประมาณ แต่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งสภาพสนาม ความเร็ว รวมทั้งสภาพกาศ วันนี้ต้องปรับหลายจุด ทำให้ขี่ได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็นครับ"
การซ้อมในวันที่สอง สภาพอากาศยังคงเป็นไปอย่างสบาย ทีมงานแซ๊กได้แก้ไขข้อบกพร่องในหลายจุด ทำให้วันนี้เจ้าฟีมได้ขับขี่มากรอบขึ้น และสามารถกดคันเร่งทำเวลาได้ดีขึ้นในทุกจุด เป็นรองหัวแถวอย่าง #72ยูกิ ทาคาฮาชิในแต่ช่วงเพียงเล็กน้อย จากอากาศที่เย็นลงกว่าเมื่อวานเล็กน้อย ทำให้ยูกิ ทำเวลาได้เพียง 1'44.552 ช้ากว่าเมื่อวานราวครึ่งวินาที อิไลอัสเองก็ช้าลง 1'44.844 คือเวลาที่เต็งหนึ่งอย่างอิไลอัสทำได้ เจ้าฟีมขยับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 1'45.463 ช้ากว่ายูกิไม่ถึงวินาที
"ทดลองหลายอย่างมากครับ แต่ก็ดีขึ้น ขี่ง่าย เลี้ยวง่าย แต่ดูเหมือนว่า HB4 จะหนักกว่า Suter ที่เคยขี่เมื่อปลายปีแล้วนิดหน่อย ช๊อคอัพหน้ายังนิ่มไปนิด สปริงที่เตรียมมาไม่พอกับความแรงและน้ำหนักของรถที่มากขึ้น หลัง OK เบรกก็ดี มีท่านั่งที่ยังอึดอัดไปนิด ทีมงานรับปากว่าจะขยับขยายให้ แล้วก็มีอัตราเร่งที่ยังไม่ทัน Moriwaki โดยรวมพอใจมากครับ"
วันสุดท้ายของการทดสอบ ช่วงเช้าอากาศดี แต่ช่วงบ่ายฝนตก มีนักแข่งพลาดล้มไปหลายคัน ที่หนักที่สุดคือเต็งหนึ่งอย่างอิไลอัส ถึงขั้นกระดูกมือและเท้าแตก ฟีมเองก็ขี่แบบเซฟในช่วงเช้า ก็มี #71 คลาอูดิโอ้ คอรติที่เร็วสุด 1'44.044 อิไลอัสก่อนล้ม 1'44.263 ฟีมทำได้เพียง 1'46.014 ช้ากว่าคอรติ 2 วินาที
ผลการซ้อมทั้งสามวัน
หลังการซ้อมเสร็จสิ้น ทุกทีมต้องถอดเครื่องยนต์คืนให้กับผู้จัดฯเพื่อที่จะได้นำกลับไปปรับสภาพให้ใหม่เหมือนเดิม จากนั้นก็เก็บรถแข่งและอุปกรณ์ลงลังเพื่อส่งไปยังประเทศการ์ต้า
"คู่แข่งปีนี้ไม่น่ากลัวมากนัก เป็นห่วงแต่เรื่องรถ เพราะเรามีเวลาน้อยกว่าทีมอื่น และยังต้องแก้ไขอีกหลายจุด เรื่องแฟริ่งที่ใหญ่ไปหน่อย โดยทีมงานได้ทดลองตัดแต่งก็ดีขึ้น และรับปากว่าจะออกแบบใหม่ให้ทันการแข่งสนามแรกที่การ์ต้า คู่แข่งที่ดูดีก็มี #24 อิไลอัสกับ #15 ดิ แองเจิลลิส สองคนนี้ปรับรถเร็ว คนอื่นๆ ก็พอได้ ยังมีจากรุ่นเล็กก็เก่งใช้ได้ แต่อย่างไรฟีมไม่ยอมอยู่แล้วครับ"
โดยรวมเป็นที่น่าพอใจกับเวลาที่มีให้เพียง 3 วัน หลังจากนี้การบ้านใหญ่ตกหนักที่ทีมงานแซ๊กและ Bimota ที่จะต้องปรับ HB4 ให้อยู่มือภายในเวลาไม่ถึง 10 วันนับจากนี้
การแข่งขันสนามแรกเป็นการแข่งขันในเวลากลางคืนเหมือนเช่นปีที่ผ่านมาที่สนามโลไซอัล เมืองโดฮา ประเทศการ์ต้าในระหว่างวันที่ 9-11 เมษายน 2553 ที่จะถึงนี้ครับ
เพิ่งเติม http://www.aphonda.co.th/2010/2010_page045.asp?id=0591
"Young Oskar," 2010, Joshua Abelow
Young Oskar
01/2010 Joshua Abelow
My mind wanders behind
the wheel. Sometimes,
like now, I pull the car
over to the side of some
strange road to jot down
some strange thought.
I'm parked on the side
of the road in the dark
thinking about how it feels
to be a young artist.
There's a lot of romanticism
in those two words: YOUNG ARTIST
Those words hold romance
for me too, although I usually
feel buried under rocks or
like I'm continually being
crushed by tidal waves.
Here we are with all our
so called talents, but
the wavy lines come out
straight and the straight lines
come out wavy. Every
now and then you think
you've done it right and
then some jerk comes along
and says, "Great job! Do
you know the work of
Oskar Kokoschka?"
Subscribe to:
Posts (Atom)